วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

ประโยชน์ของ TDEX และ SET50 Index Futures / as of 13Oct08

ประโยชน์ของ TDEX และ SET50 Index Futures / as of 13Oct08
 
  
เมื่อตลาดหุ้นแกว่งตัวผันผวนการเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัว อาจทำให้นักลงทุนหลายท่านประสบความยุ่งยาก เพราะหุ้นที่ลงทุนอยู่นั้นอาจจะปรับตัวลงลึกกว่าตลาด หรือ เมื่อตลาด รีบาวด์ อาจปรับตัวขึ้นได้ไม่เท่ากับตลาดรวม ดังนั้น การลงทุนผ่าน TDEX ก็นับเป็นทางเลือกหนึ่งที่ผู้ลงทุนสามารถ ใช้เป็นการกระจายการลงทุน เปรียบเสมือนการซื้อหุ้นทั้งตลาด โดยอ้างอิงหุ้น ใน SET50 ซึ่งเป็นการกระจายน้ำหนักการลงทุนเท่ากับการคำนวน SET50 index ซึ่งปัจจุบัน SET50 นั้นมี Market cap รวมเท่ากับ 73% ของตลาดหุ้นไทย และมีความสัมพันธ์กับ SET index ถึง 98%  ข้อมูลสิ้นเดือน .. ที่ผ่านมา มีผลตอบแทนด้านปันผล (Dividend Yield) สูงถึง 5.39% และมี P/E เฉลี่ย อยู่ที่ 8.13 เท่า  โดยปัจจุบัน มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่  57ล้านบาท  ดังนั้น จึงถือได้ว่า TDEX เป็นเครื่องมือการลงทุนหนึ่งที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ลงทุน สามารถใช้ลงทุนเปรียบเสมือนหุ้นตัวหนึ่ง เพียงแต่จะหาจังหวะการลงทุนด้วยการวิเคราะห์ตลาดรวม แทนการวิเคราะห์หุ้นรายตัว
นอกจากนี้ การลงทุนใน  TDEX  นั้น สามารถใช้กลยุทธ์การทำกำไรส่วนต่าง ควบคู่กับการซื้อขาย SET 50 index Futures  ก็ได้ เนื่องจากมีสินค้าอ้างอิงตัวเดียวกัน คือ SET50 index หรือการป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน TDEX ในตลาดขาลง ก็สามารถใช้สัญญา Futures เพื่อป้องกันความเสี่ยงได้ง่าย ด้วยเช่นกัน








 นอกจากนี้ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจถึง SET50 index Futures ว่ามีประโยชน์อย่างไร ซึ่งมีดังนี้คือ
1. ประโยชน์ในการบริหารความเสี่ยง
 ในกรณีที่ผู้ลงทุนมีพอร์ตหุ้นที่อยู่ในกลุ่มดัชนี SET50 โดยผู้ลงทุนคาดการณ์ว่าภาวะตลาดจะตกต่ำในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ผู้ลงทุนก็อาจเข้าไป "ขาย" ฟิวเจอร์สของดัชนี SET50 ในตลาดอนุพันธ์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุนเพราะราคาหุ้นในพอร์ตลดลง โดยไม่ต้องขายหุ้นในพอร์ตออกไป ดังนั้นในภาวะตลาดตกต่ำถึงมูลค่าพอร์ตจะขาดทุนแต่ถ้าผู้ลงทุนขายฟิวเจอร์สเอาไว้จะได้รับกําไรจากฟิวเจอร์ส มาถัวกับขาดทุนจากพอร์ตการลงทุนทําให้ท้าย ที่สุดแล้วผู้ลงทุนจะไม่ได้รับผลกระทบในตลาดขาลง หรือ ถ้าได้รับผลกระทบก็ได้รับไม่มาก
 
2. ประโยชน์ในการทํากําไร
 SET50 Index Futures มีจุดเด่นหลายข้อที่ทําให้ผู้ลงทุนทั่วโลกใช้เป็นเครื่องมือในการทํากําไร ได้แก่
 ใช้เงินลงทุนน้อย : การซื้อขาย SET50 Index Futures เปรียบเสมือนกับการที่ผู้ลงทุนสามารถมีสถานภาพการลงทุน (Exposure) ในหุ้น 50 ตัวพร้อมกัน โดยไม่จําเป็นต้องเข้าไปซื้อขายหุ้นจริงทั้ง 50 ตัวซึ่งต้องใช้เงินลงทุนจํานวนมาก และยังค่อนข้างยากในทางปฏิบัติอีกด้วย เช่น ถ้าเราซื้อ หุ้นราคา 500,000 บาท เราก็ต้องจ่ายเงินค่าหุ้นทั้งหมด 500,000 บาท ในขณะที่การลงทุนใน SET50 Index Futures นั้น เราจะจ่ายเพียงเงินประกันขั้นต้น เท่านั้น ซึ่งกําหนดไว้ไม่เกิน 10% ของมูลค่าสัญญา เช่น ถ้าฟิวเจอร์ส 1 สัญญา มีมูลค่า 500,000 บาท เราก็จ่ายเงินประกันขั้นต้นไม่เกิน 50,000 บาท เท่านั้น
  มีโอกาสได้อัตราผลตอบแทนสูง : เนื่องจากการซื้อขายฟิวเจอร์สเปรียบเสมือนกับซื้อขายหุ้นทั้ง 50 ตัวในดัชนี SET50 โดยการใช้ เงินลงทุน เพียงนิดเดียว ดังนั้น หากดัชนี SET50 เพิ่มขึ้นหรือลดลงทําให้ผู้ลงทุนได้กําไร เมื่อเรานําเงินกําไรดังกล่าวมาคิดอัตราผลตอบแทน เราจะพบว่า การลงทุนในฟิวเจอร์สได้อัตราผลตอบแทนสูง เช่นจากตัวอย่างข้างต้น ถ้าผู้ลงทุนได้กําไร 5,000 บาท เมื่อนํามาคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เทียบกับเงินลงทุน 50,000 บาท เทียบได้ว่า อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในฟิวเจอร์สสูงถึง 10% ในขณะที่การซื้อขายหุ้นจริง จะให้อัตราผลตอบแทนเพียง 1% เท่านั้น ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าว ก็เป็น คุณสมบัติที่สําคัญของฟิวเจอร์สและอนุพันธ์อื่น ในเรื่องของการมี Leverage สูง หรือ ใช้เงินลงทุนน้อยกว่าแต่ให้ผลตอบแทนที่เท่ากัน
ทํากําไรได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง : เนื่องจากการซื้อขายฟิวเจอร์สเป็นเพียงการตกลงทําสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งเป็นการตกลงกัน ในวันนี้ว่า จะซื้อหรือจะขาย ดังนั้น ถ้าเราคาดว่าตลาดอยู่ในขาลง เราก็สามารถที่จะขายฟิวเจอร์สเพื่อทํากําไรได้แม้ว่า เราจะ ยังไม่เคยซื้อฟิวเจอร์ส มาก่อนเลย ดังนั้น SET50 Index Futures จึงช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับผู้ลงทุนทําให้สามารถลงทุนได้ตลอดเวลา
  วิเคราะห์ง่ายไม่ยุ่งยาก : เนื่องจากการซื้อขาย SET50 Index Futures เปรียบเสมือนว่าผู้ลงทุนได้ซื้อหรือขายหุ้นทั้ง 50 ตัวได้ในครั้ง เดียว โดยเป็นการประเมินความเคลื่อนไหวของตลาดจากภาพรวม การตัดสินใจซื้อขาย Futures นั้นสามารถวิเคราะห์ได้โดยอ้างอิงจากภาพรวมของตลาด ไม่ต้องใช้ การวิเคราะห์เป็นรายตัว
 
 
ความเสี่ยงหรือสิ่งที่ควรระวัง
 แม้ว่าการซื้อขาย SET50 Index Futures จะมีประโยชน์แต่ก็มีสิ่งที่ต้องระวังดังนี้
 1. การรักษาระดับเงินประกัน ในการซื้อขายฟิวเจอร์ส แม้ว่าเราจะวางเงินประกันน้อย แต่จะมีการคิดกําไรขาดทุนกันทุกสิ้นวัน ถ้าระดับเงิน ประกันของเราลดลงจนต่ำกว่าระดับเงินประกันขั้นต่ำ เราก็จะถูกเรียกให้"เติมเงิน" เพื่อให้เงินประกันกลับไปอยู่ที่ระดับที่โบรกเกอร์กําหนดแต่ถ้าเราไม่สามารถ "เติมเงิน" ได้ทัน โบรกเกอร์ก็จะปิดสถานะการซื้อขายของเรา เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ลงทุนขาดทุนมากเกินไป

 
2. ฟิวเจอร์สมีอายุจํากัด ซึ่งแตกต่างจากหุ้นที่ไม่มีวันหมดอายุ หากผู้ซื้อและผู้ขายถือฟิวเจอร์สไปจนถึงวันครบอายุสัญญา ก็มีหน้าที่ที่จะต้อง ชําระเงินกันไปเรื่อยๆจนถึงวันดังกล่าว แต่ถ้าผู้ซื้อและผู้ขายไม่ต้องการถือฟิวเจอร์สไปจนถึงวันครบอายุสัญญา ก็ต้องปิดสถานะซื้อหรือขายที่มีอยู่ให้หมดไป ก่อนถึงวันนั้น คือ ถ้ามีสถานะซื้ออยู่ ก็ไปขายฟิวเจอร์ส แต่ถ้ามีสถานะขาย ก็ไปซื้อฟิวเจอร์สเพื่อปิดสถานะ แล้วก็อย่าลืมว่าต้องเป็นฟิวเจอร์สของเดือนเดียวกันด้วย ไม่อย่างนั้น แทนที่จะเป็นการปิดสถานะลง ก็จะกลายเป็นการเพิ่มสถานะแทน

 
3. การมี Leverage สูง คือ อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในฟิวเจอร์สสูงกว่าอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้น ถ้าคาดการณ์ถูก เราก็จะ ได้กําไรในอัตราที่สูงกว่าแต่ถ้าเราคาดการณ์ผิด เราก็จะขาดทุนในอัตราที่สูงกว่าเช่นกัน ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงควรรู้จักระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้ก่อนตัดสินใจ ลงทุนในฟิวเจอร์ส และต้องติดตามผลการลงทุนอย่างสม่ำเสมอด้วย การลงทุนใน SET50 Index Futures จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ผู้ลงทุนที่มีการเตรียมตัว เป็นอย่างดีก่อนที่จะเข้ามาซื้อขายจริงในตลาดอนุพันธ์ แต่อาจให้ผลในทางตรงกันข้ามกับผู้ลงทุนที่ไม่ได้เตรียมตัว
ที่มาข้อมูล :   www.one-asset.com และ www.tfex.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น